ระบบรักษาช่องทางขับขี่ (Lane Keeping System) คืออะไร

ระบบรักษาช่องทางขับขี่ (Lane Keeping System) คือเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ช่วยให้รถยนต์อยู่ในช่องทางเดินรถอย่างปลอดภัย โดยระบบจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อรถเริ่มเบี่ยงเบนออกจากช่องทางโดยไม่ได้ตั้งใจ

ระบบรักษาช่องทางขับขี่คืออะไรระบบรักษาช่องทางขับขี่คืออะไร

ระบบรักษาช่องทางการขับขี่จะแจ้งเตือนคุณโดยให้ความช่วยเหลือในการบังคับเลี้ยวชั่วคราว หรือพวงมาลัยจะสั่นเมื่อระบบตรวจพบการเปลี่ยนช่องทางโดยไม่ตั้งใจ

ระบบรักษาช่องทางขับขี่ทำงานอย่างไรระบบรักษาช่องทางขับขี่ทำงานอย่างไร

ระบบคุมรถในช่องทางจะใช้กล้องส่องทางข้างหน้าที่ติดตั้งบนกระจกหน้าเพื่อตรวจจับการเคลื่อนที่ของรถยนต์ภายในช่องทางเดินรถ
เมื่อกล้องตรวจพบการไถลออกจากช่องทางเดินรถ ระบบคุมรถในช่องทางจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่ด้วยการสั่นพวงมาลัย หรือช่วยเหลือผู้ขับขี่โดยการควบคุมพวงมาลัยเล็กน้อยเพื่อทำให้รถยนต์เคลื่อนที่กลับเข้าสู่ช่องทางการเดินรถ
ผู้ขับขี่สามารถเลือกจาก 1 ใน 3 โหมดดังนี้

  • การแจ้งเตือน (หากติดตั้ง)
  • ความช่วยเหลือ
  • เตือนและช่วยเหลือ

ข้อจำกัดของระบบรักษาช่องทางขับขี่ข้อจำกัดของระบบรักษาช่องทางขับขี่

ระบบรักษาช่องทางการขับขี่จะทำงานเมื่อความเร็วรถยนต์เกิน 64 km/h เท่านั้น

ระบบจะทำงานเมื่อกล้องสามารถตรวจจับเส้นแบ่งเลนได้อย่างน้อยหนึ่งเส้นหรือขอบถนน

หมายเหตุ: เมื่อคุณเลือกโหมด Aid หรือ Alert and Aid และระบบตรวจไม่พบการควบคุมการบังคับเลี้ยวเป็นระยะเวลาสั้นๆ ระบบจะแจ้งเตือนให้คุณวางมือบนพวงมาลัย ระบบอาจตรวจการกุมหรือสัมผัสเบาๆ บนพวงมาลัยว่าเป็นการขับขี่แบบไม่จับพวงมาลัย
ระบบรักษาช่องทางการขับขี่อาจทำงานไม่ถูกต้องในสภาวะต่อไปนี้:

  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางไม่พบเครื่องหมายช่องทางการขับขี่หรือขอบถนนอย่างน้อยหนึ่งเส้น
  • คุณเปิดสัญญาณไฟเลี้ยว
  • คุณใช้การบังคับเลี้ยวโดยตรง เร่งความเร็วอย่างรวดเร็ว หรือเหยียบเบรกอย่างแรง
  • ความเร็วรถยนต์ต่ำกว่า 64 km/h
  • ระบบเบรกแบบป้องกันล้อล็อก ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว หรือควบคุมการลื่นไถลเปิดใช้งาน
  • เลนแคบเกินไป
  • มีบางสิ่งบดบังกล้อง หรือกล้องไม่สามารถตรวจจับเส้นแบ่งเลนได้เนื่องจากสภาวะแวดล้อม สภาพการจราจร หรือสภาพรถยนต์
  • รถอยู่ระหว่างเข้าหรือออกจากโค้งหักศอกขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง

ระบบรักษาช่องทางการขับขี่อาจจับตำแหน่งเลนไม่ถูกต้องในเงื่อนไขต่อไปนี้:

  • ลมแรงมาก
  • พื้นผิวถนนไม่เรียบ
  • รถบรรทุกน้ำหนักมากหรือไม่สมดุล
  • แรงดันลมยางไม่ถูกต้อง

สำหรับข้อมูลเฉพาะเจาะจงสำหรับรถยนต์ของคุณ โปรดดูคู่มือการใช้งานรถยนต์

คุณสมบัตินีมีในรถบางรุ่น สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อ ผู้จำหน่ายใกล้บ้าน