ปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่

แบตเตอรี่ในรถยนต์ฟอร์ดได้รับการออกแบบมาเฉพาะสำหรับแต่ละรุ่น และครอบคลุมภายใต้การรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่เป็นระยะเวลา 12 เดือน หรือ 20,000 กม. แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน อย่างไรก็ตาม การดูแลรักษาที่เหมาะสมสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานได้นานกว่าระยะเวลารับประกันอย่างมาก

ปัจจัยหลายประการที่ส่งผลกระทบต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ได้แก่

  • สภาพการเชื่อมต่อทางไฟฟ้า: เช่น ขั้วแบตเตอรี่สกปรกหรือหลวม หรือจุดเชื่อมต่อกับสายดินไม่แน่น ทำให้การชาร์จและการจ่ายไฟไม่เต็ม
  • สภาพอากาศและอุณหภูมิ: อุณหภูมิที่หนาวจัดลดประสิทธิภาพและอาจทำให้น้ำกลั่นแข็งตัวหากระดับต่ำ ส่วนอากาศร้อนจัดเร่งการกัดกร่อนภายในแบตเตอรี่
  • ลักษณะการใช้งาน: การขับขี่ระยะสั้นหรือมีการสตาร์ท/ดับเครื่องยนต์บ่อยครั้ง ทำให้แบตเตอรี่ได้รับการชาร์จไม่เต็มที่ ส่งผลให้เกิดการสะสมของผลึกซัลเฟต ซึ่งลดความสามารถในการเก็บประจุ
  • การบำรุงรักษา: ระดับอิเล็กโทรไลต์ (น้ำกลั่น) ต่ำ หรือการใช้น้ำที่ไม่เหมาะสมแทนน้ำกลั่น ลดอายุแบตเตอรี่อย่างมาก
  • ระยะเวลาจอดรถ: การจอดรถทิ้งไว้นานโดยไม่ใช้งานส่งผลให้แบตเตอรี่คายประจุและเสื่อมสภาพได้

การตรวจสอบและบำรุงรักษาแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอโดยผู้เชี่ยวชาญที่ผู้จำหน่ายฟอร์ด สามารถลดความเสี่ยงการเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควรได้อย่างมาก

เมื่อถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ โปรดเลือกแบตเตอรี่ที่ตรงตามข้อกำหนดทางไฟฟ้าของรถคุณ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด สามารถตรวจสอบข้อมูลจำเพาะที่ถูกต้องได้จากคู่มือเจ้าของรถฟอร์ด หรือปรึกษาผู้จำหน่ายฟอร์ดที่ได้รับอนุญาต

หมายเหตุ: ควรถอดปลั๊กอุปกรณ์เสริมออกจากรถเมื่อดับเครื่องยนต์ เพื่อป้องกันการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ขณะจอดรถ