Car Maintenance: การบำรุงดูแลรักษารถยนต์ในเบื้องต้น | Ford ประเทศไทย

Ford Car Maintenance: การบำรุงดูแลรักษารถยนต์ฟอร์ดในเบื้องต้น

ขอขอบคุณที่คุณให้ความสนใจและใช้รถฟอร์ด เราหวังว่าคุณจะได้รับความสนุกกับการขับขี่รถฟอร์ด รถยนต์แบรนด์ต่าง ๆ มีการทำงานและคุณสมบัติทางโครงสร้างที่แตกต่างกัน จากประสบการณ์ เราพบว่าการร้องเรียนหรือความไม่พึงพอใจบางเรื่องเกิดจากความไม่เข้าใจในเรื่องดีไซน์และคุณสมบัติทางโครงสร้างของรถยนต์หรือมีการใช้งานที่ไม่ถูกต้องเพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดเหล่านี้ เราจึงจัดเตรียมคู่มือแนะนำการใช้รถฉบับนี้ขึ้น ซึ่งจะแนะนำคุณสมบัติการทำงานที่สำคัญและความรู้ทั่วไปบางประการในเรื่องการใช้รถยนต์ ข้อมูลที่อยู่ในคู่มือแนะนำฉบับนี้เป็นไปเพื่อการอ้างอิงของคุณเท่านั้น และไม่สามารถทดแทนคู่มือสำหรับเจ้าของรถ (Owner Manual) ได้ เราจึงขอแนะนำให้คุณอ่านคู่มือ สำหรับเจ้าของรถอย่างละเอียดถี่ถ้วน คุณสามารถรับข้อมูลอย่างละเอียดของรถคุณได้จากคู่มือสำหรับเจ้าของรถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานที่เป็นมาตรฐานของ รถยนต์และการขับขี่อย่างปลอดภัย
เราหวังว่าคู่มือแนะนำการใช้รถฉบับนี้จะสามารถช่วยให้คุณมีความรู้เกี่ยวกับรถฟอร์ดมากขึ้น และช่วยให้คุณเป็นผู้ชำนาญในการใช้รถ

Ford Car Maintenance: การบำรุงดูแลรักษารถยนต์ฟอร์ดในเบื้องต้น

ขอขอบคุณที่คุณให้ความสนใจและใช้รถฟอร์ด เราหวังว่าคุณจะได้รับความสนุกกับการขับขี่รถฟอร์ด รถยนต์แบรนด์ต่าง ๆ มีการทำงานและคุณสมบัติทางโครงสร้างที่แตกต่างกัน จากประสบการณ์ เราพบว่าการร้องเรียนหรือความไม่พึงพอใจบางเรื่องเกิดจากความไม่เข้าใจในเรื่องดีไซน์และคุณสมบัติทางโครงสร้างของรถยนต์หรือมีการใช้งานที่ไม่ถูกต้องเพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดเหล่านี้ เราจึงจัดเตรียมคู่มือแนะนำการใช้รถฉบับนี้ขึ้น ซึ่งจะแนะนำคุณสมบัติการทำงานที่สำคัญและความรู้ทั่วไปบางประการในเรื่องการใช้รถยนต์ ข้อมูลที่อยู่ในคู่มือแนะนำฉบับนี้เป็นไปเพื่อการอ้างอิงของคุณเท่านั้น และไม่สามารถทดแทนคู่มือสำหรับเจ้าของรถ (Owner Manual) ได้ เราจึงขอแนะนำให้คุณอ่านคู่มือ สำหรับเจ้าของรถอย่างละเอียดถี่ถ้วน คุณสามารถรับข้อมูลอย่างละเอียดของรถคุณได้จากคู่มือสำหรับเจ้าของรถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานที่เป็นมาตรฐานของ รถยนต์และการขับขี่อย่างปลอดภัย
เราหวังว่าคู่มือแนะนำการใช้รถฉบับนี้จะสามารถช่วยให้คุณมีความรู้เกี่ยวกับรถฟอร์ดมากขึ้น และช่วยให้คุณเป็นผู้ชำนาญในการใช้รถ

billboard

ความสำคัญของการบำรุงรักษาเป็นประจำ

รถยนต์หนึ่งคันประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนนับหมื่นชิ้นซึ่งผลิตขึ้นจากวัสดุที่แตกต่างกัน ได้แก่ โลหะ กระจก ยาง และวัสดุจากปิโตรเคมีอีกหลากหลาย หลังจากขับขี่รถยนต์มาเป็นเวลานานภายใต้สภาพการทำงานที่แตกต่างกัน ชิ้นส่วนทุกชิ้นจะเกิดการสึกหรอหรือชำรุดตามระยะทางและระยะเวลาใช้งานที่เพิ่มขึ้น และเกิดจากผลกระทบของสภาพแวดล้อมที่ใช้งาน หากยังใช้ชิ้นส่วนเหล่านี้ต่อไปโดยไม่มีการบำรุงรักษา ชิ้นส่วนเหล่านี้อาจทำงานเกินอายุใช้งานและลดสมรรถนะของรถยนต์ลงทีละน้อย ปัญหาจะถูกขยายจากชิ้นส่วนใดชิ้นส่วนหนึ่งไปยังชิ้นส่วนอื่น ๆ ทีละน้อย และยังสามารถก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้น การบำรุงรักษาเป็นประจำจึงมีความสำคัญมากซึ่งสัมพันธ์กับอายุการใช้งานของรถและการขับขี่อย่างปลอดภัย
ดังคำกล่าวที่ว่า "อายุการใช้งานของรถขึ้นอยู่กับการบำรุงรักษา70% และอีก 30% ขึ้นอยู่กับการซ่อมแซม" การบำรุงรักษาเป็นประจำสามารถยืดอายุการใช้งานของรถได้ ค่าซ่อมแซมรถเมื่อ รถเสียจะสูงกว่าค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเป็นประจำหลายเท่าตัว ถ้าต้องซ่อมแซมรถครั้งใหญ่แล้วจะยากที่จะฟื้นฟูสมรรถนะรถให้เหมือนเดิม
การบำรุงรักษาเป็นประจำมีความสำคัญเพราะสามารถซ่อมแซมและเปลี่ยนชิ้นส่วนที่ชำรุดและสึกหรอตามปกติได้ สามารถระบุและแก้ปัญหาความขัดข้องที่อาจเกิดขึ้นได้ทันเวลาด้วยการตรวจเช็คและ
บำรุงรักษารถยนต์ตามระยะอย่างครอบคลุม และแน่ใจได้ว่าชิ้นส่วนของรถและรถทั้งคันอยู่ในสภาพปกติ

ความสำคัญของการบำรุงรักษาเป็นประจำ

รถยนต์หนึ่งคันประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนนับหมื่นชิ้นซึ่งผลิตขึ้นจากวัสดุที่แตกต่างกัน ได้แก่ โลหะ กระจก ยาง และวัสดุจากปิโตรเคมีอีกหลากหลาย หลังจากขับขี่รถยนต์มาเป็นเวลานานภายใต้สภาพการทำงานที่แตกต่างกัน ชิ้นส่วนทุกชิ้นจะเกิดการสึกหรอหรือชำรุดตามระยะทางและระยะเวลาใช้งานที่เพิ่มขึ้น และเกิดจากผลกระทบของสภาพแวดล้อมที่ใช้งาน หากยังใช้ชิ้นส่วนเหล่านี้ต่อไปโดยไม่มีการบำรุงรักษา ชิ้นส่วนเหล่านี้อาจทำงานเกินอายุใช้งานและลดสมรรถนะของรถยนต์ลงทีละน้อย ปัญหาจะถูกขยายจากชิ้นส่วนใดชิ้นส่วนหนึ่งไปยังชิ้นส่วนอื่น ๆ ทีละน้อย และยังสามารถก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้น การบำรุงรักษาเป็นประจำจึงมีความสำคัญมากซึ่งสัมพันธ์กับอายุการใช้งานของรถและการขับขี่อย่างปลอดภัย
ดังคำกล่าวที่ว่า "อายุการใช้งานของรถขึ้นอยู่กับการบำรุงรักษา70% และอีก 30% ขึ้นอยู่กับการซ่อมแซม" การบำรุงรักษาเป็นประจำสามารถยืดอายุการใช้งานของรถได้ ค่าซ่อมแซมรถเมื่อ รถเสียจะสูงกว่าค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเป็นประจำหลายเท่าตัว ถ้าต้องซ่อมแซมรถครั้งใหญ่แล้วจะยากที่จะฟื้นฟูสมรรถนะรถให้เหมือนเดิม
การบำรุงรักษาเป็นประจำมีความสำคัญเพราะสามารถซ่อมแซมและเปลี่ยนชิ้นส่วนที่ชำรุดและสึกหรอตามปกติได้ สามารถระบุและแก้ปัญหาความขัดข้องที่อาจเกิดขึ้นได้ทันเวลาด้วยการตรวจเช็คและ
บำรุงรักษารถยนต์ตามระยะอย่างครอบคลุม และแน่ใจได้ว่าชิ้นส่วนของรถและรถทั้งคันอยู่ในสภาพปกติ

  • วิธีใช้และวิธีดูแลที่ปัดน้ำฝนอย่างถูกต้อง

    วิธีใช้และวิธีดูแลที่ปัดน้ำฝนอย่างถูกต้อง

    วิธีใช้และวิธีดูแลที่ปัดน้ำฝนอย่างถูกต้อง

    วิธีใช้และวิธีดูแลที่ปัดน้ำฝนอย่างถูกต้อง

    correct use method and maintenance method-1

    การดูแลก้านปัดน้ำฝนอย่างถูกวิธี

    ก่อนทำความสะอาดกระจกหน้ารถ ให้จับส่วนเชื่อมต่อระหว่างแขนปัดน้ำฝนและก้านปัดน้ำฝนด้วยนิ้วโป้งและนิ้วชี้ (ดังแสดงในรูป) แล้วยกแขนปัดน้ำฝนตั้งขึ้น

    การดูแลก้านปัดน้ำฝนอย่างถูกวิธี

    ก่อนทำความสะอาดกระจกหน้ารถ ให้จับส่วนเชื่อมต่อระหว่างแขนปัดน้ำฝนและก้านปัดน้ำฝนด้วยนิ้วโป้งและนิ้วชี้ (ดังแสดงในรูป) แล้วยกแขนปัดน้ำฝนตั้งขึ้น

    correct use method and maintenance of a wiper-2

    วิธีใช้งานที่ไม่ถูกต้องจะทำความเสียหายให้กับที่ปัดน้ำฝน

    อย่าปล่อยที่ปัดน้ำฝนใส่กระจกหน้ารถอย่างกะทันหัน

    อย่าบิดก้านปัดน้ำฝนหรือขวางก้านปัดน้ำฝนในขณะที่ยกค้างและปัดอยู่

    วิธีใช้งานที่ไม่ถูกต้องจะทำความเสียหายให้กับที่ปัดน้ำฝน

    อย่าปล่อยที่ปัดน้ำฝนใส่กระจกหน้ารถอย่างกะทันหัน

    อย่าบิดก้านปัดน้ำฝนหรือขวางก้านปัดน้ำฝนในขณะที่ยกค้างและปัดอยู่

    สาเหตุและวิธีแก้ปัญหาที่ปัดน้ำฝนทำงานไม่สมบูรณ์

    สาเหตุและวิธีแก้ปัญหาที่ปัดน้ำฝนทำงานไม่สมบูรณ์

    Battery Maintenance-1

    ริ้วแนวนอน

    ริ้วแนวนอนบาง ๆ จะส่งผลกระทบต่อการมองเห็น

    สาเหตุ

    มีสิ่งแปลกปลอมติดที่ยางของก้านปัดน้ำฝน หรือขอบยางปัดน้ำฝนเสียหาย

    วิธีแก้ปัญหา 

     ทำความสะอาดขอบยางปัดน้ำฝน ถ้ายังแก้ปัญหาไม่ได้ กรุณาเปลี่ยนก้านปัดน้ำฝน

    ริ้วแนวนอน

    ริ้วแนวนอนบาง ๆ จะส่งผลกระทบต่อการมองเห็น

    สาเหตุ

    มีสิ่งแปลกปลอมติดที่ยางของก้านปัดน้ำฝน หรือขอบยางปัดน้ำฝนเสียหาย

    วิธีแก้ปัญหา

    ทำความสะอาดขอบยางปัดน้ำฝน ถ้ายังแก้ปัญหาไม่ได้ กรุณาเปลี่ยนก้านปัดน้ำฝน

    Battery maintenance-2

    ริ้วแนวตั้ง

    ที่ปัดน้ำฝนส่งเสียงแปลก ๆ กระเด้งขึ้นและไม่สามารถหมุนได้อย่างสะดวก

    สาเหตุ

    กระจกมีคราบน้ำมันหรือเทียน หรือยางปัดน้ำฝนผิดรูป

    วิธีแก้ปัญหา

     ทำความสะอาดกระจก ถ้ายังแก้ปัญหาไม่ได้ กรุณาเปลี่ยนก้านปัดน้ำฝน


     

    ริ้วแนวตั้ง

    ที่ปัดน้ำฝนส่งเสียงแปลก ๆ กระเด้งขึ้นและไม่สามารถหมุนได้อย่างสะดวก

    สาเหตุ

    กระจกมีคราบน้ำมันหรือเทียน หรือยางปัดน้ำฝนผิดรูป

    วิธีแก้ปัญหา

     ทำความสะอาดกระจก ถ้ายังแก้ปัญหาไม่ได้ กรุณาเปลี่ยนก้านปัดน้ำฝน


     
    Battery maintenance-3

    เป็นดวง

    หลังการกวาดก้านปัดน้ำฝน มีรอยน้ำเป็น
    ดวงๆ

    สาเหตุ

    ยางปัดน้ำฝนผิดรูป

    วิธีแก้ปัญหา

    กรุณาเปลี่ยนก้านปัดน้ำฝน

    เป็นดวง

    หลังการกวาดก้านปัดน้ำฝน มีรอยน้ำเป็น
    ดวง ๆ

    สาเหตุ

    ยางปัดน้ำฝนผิดรูป

    วิธีแก้ปัญหา

    กรุณาเปลี่ยนก้านปัดน้ำฝน

    Battery maintenance-4

    เป็นสะเก็ด

    ยางปัดน้ำฝนไม่แนบผิวหน้ากระจกและไม่สามารถปาดและกวาดได้อย่างสม่ำเสมอ

    สาเหตุ

    ผิวหน้ายางปัดน้ำฝนหรือโครงก้านปัดน้ำฝนผิดรูปทำให้แรงกดไม่เพียงพอ

    วิธีแก้ปัญหา

    กรุณาเปลี่ยนก้านปัดน้ำฝน

    เป็นสะเก็ด

    ยางปัดน้ำฝนไม่แนบผิวหน้ากระจกและไม่สามารถปาดและกวาดได้อย่างสม่ำเสมอ

    สาเหตุ

    ผิวหน้ายางปัดน้ำฝนหรือโครงก้านปัดน้ำฝนผิดรูปทำให้แรงกดไม่เพียงพอ

    วิธีแก้ปัญหา

    กรุณาเปลี่ยนก้านปัดน้ำฝน

    ทำความสะอาดก้านปัดน้ำฝน

    ทำความสะอาดก้านปัดน้ำฝน

    วิธีแก้ปัญหาเมื่อไม่ได้ใช้ก้านปัดน้ำฝนเป็นเวลานาน

    เมื่อรถของคุณไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน (โดยทั่วไปมากกว่า 2 วัน) กรุณาหนุนแขนปัดน้ำฝน โดยใช้โฟม(40 x 40 x 60 มม.)ตามที่แสดงอยู่ในแผนผังเพื่อป้องกันก้านปัดน้ำฝนสัมผัสโดยตรงกับกระจกหน้ารถยนต์และลดการเปลี่ยนรูปจากแรงกดอัด นอกจากนี้ อย่าจอดรถของคุณในบริเวณที่มีน้ำหยด หรือใต้ต้นไม้ และหลีกเลี่ยงบริเวณแสงแดดจัด หรือถอดก้านปัดน้ำฝนออกโดยตรง แล้วเก็บไว้ในฝากระโปรงท้ายรถยนต์เพื่อการใช้ในอนาคต จากนั้นวางแท่นโฟมหนุนใต้แขนปัดน้ำฝน เมื่อนำรถมาใช้อีกครั้ง กรุณานำแท่นหนุนออกก่อน

    วิธีแก้ปัญหาเมื่อไม่ได้ใช้ก้านปัดน้ำฝนเป็นเวลานาน

    เมื่อรถของคุณไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน (โดยทั่วไปมากกว่า 2 วัน) กรุณาหนุนแขนปัดน้ำฝน โดยใช้โฟม(40 x 40 x 60 มม.)ตามที่แสดงอยู่ในแผนผังเพื่อป้องกันก้านปัดน้ำฝนสัมผัสโดยตรงกับกระจกหน้ารถยนต์และลดการเปลี่ยนรูปจากแรงกดอัด นอกจากนี้ อย่าจอดรถของคุณในบริเวณที่มีน้ำหยด หรือใต้ต้นไม้ และหลีกเลี่ยงบริเวณแสงแดดจัด หรือถอดก้านปัดน้ำฝนออกโดยตรง แล้วเก็บไว้ในฝากระโปรงท้ายรถยนต์เพื่อการใช้ในอนาคต จากนั้นวางแท่นโฟมหนุนใต้แขนปัดน้ำฝน เมื่อนำรถมาใช้อีกครั้ง กรุณานำแท่นหนุนออกก่อน

    Handling method
  • การบำรุงรักษาและคำแนะนำในการป้องกันแบตเตอรี่กินไฟอย่างผิดปกติ

    การบำรุงรักษาและคำแนะนำในการป้องกันแบตเตอรี่กินไฟอย่างผิดปกติ

    โดยทั่วไปขนาดของแบตเตอรี่จะวัดจากความจุไฟฟ้า ความจุไฟฟ้าแสดงถึงความสามารถในการจ่ายกระแสไฟ เมื่อแบตเตอรี่ที่ชาร์จเต็ม จ่ายกระแสไฟอย่างต่อเนื่องด้วยระดับกระแสไฟฟ้าหนึ่งจนแรงดันไฟฟ้าหมด โดยปกติจะแทนด้วยค่า AH เมื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ ไม่ควรใช้แบตเตอรี่ที่มีค่า AH น้อยกว่าแบตเตอรี่ตัวเดิม

    โดยทั่วไปขนาดของแบตเตอรี่จะวัดจากความจุไฟฟ้า ความจุไฟฟ้าแสดงถึงความสามารถในการจ่ายกระแสไฟ เมื่อแบตเตอรี่ที่ชาร์จเต็ม จ่ายกระแสไฟอย่างต่อเนื่องด้วยระดับกระแสไฟฟ้าหนึ่งจนแรงดันไฟฟ้าหมด โดยปกติจะแทนด้วยค่า AH เมื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ ไม่ควรใช้แบตเตอรี่ที่มีค่า AH น้อยกว่าแบตเตอรี่ตัวเดิม

    Battery Maintenance

    การยืดอายุแบตเตอรี่ คุณควรสร้างนิสัยการขับรถที่ดีและเอาอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นออกจากรถของคุณ ในกรณีที่ขับระยะทางสั้น ๆ ในแต่ละวันหรือขับในเวลากลางคืนเป็นเวลานาน แบตเตอรี่จะถูกชาร์จอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ ควรมีสายพ่วงแบตเตอรี่ไว้ในรถ ถ้าเครื่องยนต์สตาร์ทไม่ติด คุณสามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยสายพ่วง
    นอกจากนี้ ถ้าเครื่องยนต์สตาร์ทติดยากหรือแสงไฟไม่สว่างพอ ควรนำแบตเตอรี่เข้าตรวจเช็คเป็นพิเศษที่ศูนย์บริการฟอร์ด และควรถอดแบตเตอรี่ออกเพื่อชาร์จให้เต็ม มิเช่นนั้น ถ้าแบตเตอรี่ทำงานภายใต้สภาวะไฟฟ้าไม่เพียงพอเป็นเวลานานจะสร้างความเสียหายให้กับแบตเตอรี่ และส่งผลให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ลดลงอย่างมาก
    หลักสำคัญ: อย่าใช้ระบบเครื่องเสียงและระบบไฟในขณะที่ไม่ได้สตาร์ทเครื่องยนต์ หลังจอดรถ ตรวจเช็คให้แน่ใจว่าปิดประตูทุกบานและฝากระโปรงท้ายแล้ว เพื่อป้องกันไฟภายในตัวรถและไฟที่ฝากระโปรงท้ายใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ได้ ทำให้รถเข้าสู่ sleeping mode ซึ่งเป็นโหมดประหยัดพลังงานมากที่สุดในการป้องกันขโมย
    หากคุณเดินทางไกลและไม่ใช้รถของคุณเป็นเวลานาน ขอแนะนำให้ถอดขั้วแบตเตอรี่ออกเพื่อป้องกันการปล่อยกระแสไฟช้าๆจนหมด ถ้าแบตเตอรี่ปล่อยกระแสไฟจนหมด แบตเตอรี่จะเสียหาย

    การยืดอายุแบตเตอรี่ คุณควรสร้างนิสัยการขับรถที่ดีและเอาอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นออกจากรถของคุณ ในกรณีที่ขับระยะทางสั้น ๆ ในแต่ละวันหรือขับในเวลากลางคืนเป็นเวลานาน แบตเตอรี่จะถูกชาร์จอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ ควรมีสายพ่วงแบตเตอรี่ไว้ในรถ ถ้าเครื่องยนต์สตาร์ทไม่ติด คุณสามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยสายพ่วง
    นอกจากนี้ ถ้าเครื่องยนต์สตาร์ทติดยากหรือแสงไฟไม่สว่างพอ ควรนำแบตเตอรี่เข้าตรวจเช็คเป็นพิเศษที่ศูนย์บริการฟอร์ด และควรถอดแบตเตอรี่ออกเพื่อชาร์จให้เต็ม มิเช่นนั้น ถ้าแบตเตอรี่ทำงานภายใต้สภาวะไฟฟ้าไม่เพียงพอเป็นเวลานานจะสร้างความเสียหายให้กับแบตเตอรี่ และส่งผลให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ลดลงอย่างมาก
    หลักสำคัญ: อย่าใช้ระบบเครื่องเสียงและระบบไฟในขณะที่ไม่ได้สตาร์ทเครื่องยนต์ หลังจอดรถ ตรวจเช็คให้แน่ใจว่าปิดประตูทุกบานและฝากระโปรงท้ายแล้ว เพื่อป้องกันไฟภายในตัวรถและไฟที่ฝากระโปรงท้ายใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ได้ ทำให้รถเข้าสู่ sleeping mode ซึ่งเป็นโหมดประหยัดพลังงานมากที่สุดในการป้องกันขโมย
    หากคุณเดินทางไกลและไม่ใช้รถของคุณเป็นเวลานาน ขอแนะนำให้ถอดขั้วแบตเตอรี่ออกเพื่อป้องกันการปล่อยกระแสไฟช้าๆจนหมด ถ้าแบตเตอรี่ปล่อยกระแสไฟจนหมด แบตเตอรี่จะเสียหาย

  • การบำรุงรักษาและการใช้ยางรถยนต์

    การบำรุงรักษาและการใช้ยางรถยนต์

    tyre maintenance

    บริเวณสีดำ: บอกถึงรอยสึกของยาง

    ภาพข้างต้นแสดงให้เห็นรอยสึกของยางในสภาวะแตกต่างกัน ถ้าพบรอยดอกยางเหล่านี้ คุณสามารถตัดสินปัญหารถของคุณได้ตามรอยดอกยาง

    นอกจากนี้ แรงดันลมยางที่สูงเกินไปจะทำให้ความนุ่มในการขับขี่ลดลง ในทางตรงกันข้าม
    แรงดันลมยางที่ต่ำเกินไปจะทำให้กินน้ำมันเพิ่มขึ้น ถ้าแรงดันลมยางด้านซ้ายและขวาแตกต่างกัน (ด้านหนึ่งสูงและอีกด้านหนึ่งต่ำ) จะทำให้รถวิ่งเสียศูนย์

    บริเวณสีดำ: บอกถึงรอยสึกของยาง

    ภาพข้างต้นแสดงให้เห็นรอยสึกของยางในสภาวะแตกต่างกัน ถ้าพบรอยดอกยางเหล่านี้ คุณสามารถตัดสินปัญหารถของคุณได้ตามรอยดอกยาง

    นอกจากนี้ แรงดันลมยางที่สูงเกินไปจะทำให้ความนุ่มในการขับขี่ลดลง ในทางตรงกันข้าม
    แรงดันลมยางที่ต่ำเกินไปจะทำให้กินน้ำมันเพิ่มขึ้น ถ้าแรงดันลมยางด้านซ้ายและขวาแตกต่างกัน (ด้านหนึ่งสูงและอีกด้านหนึ่งต่ำ) จะทำให้รถวิ่งเสียศูนย์

    เกณฑ์มาตรฐานแรงดันลมยางจะติดอยู่ที่เสากลางประตูหน้าด้านขวา

    การใช้ยางรถยนต์อย่างหนัก พฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่เหมาะสม และการเบรคอย่างไม่สมควร จะทำให้ดอกยางสึกทั้งหมดหรือบางส่วน ถ้ามีสารตัวทำละลายที่มีคุณสมบัติไม่เหมาะสมกระเด็นไปถูกยางรถยนต์จะทำให้เกิดการเสื่อมสภาพและยางล้อขยายตัว ความเสียหายและรอยกรีดที่ด้านข้างยางรถยนต์จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการทำงานพื้นฐานของยางรถยนต์ หากพบกรณีเหล่านี้ ขอแนะนำให้ตรวจสอบและเปลี่ยนยางที่ศูนย์บริการฟอร์ด
    โดยทั่วไปควรเช็คสภาพยางรถยนต์ก่อนการใช้รถ สลับล้อหน้าและล้อหลังอย่างถูกต้องตามคำแนะนำของศูนย์บริการฟอร์ด
    ในการบำรุงรักษาประจำวัน ควรตรวจสอบและปรับตั้งตำแหน่งล้อทั้งสี่เป็นประจำ ควรเปลี่ยนยางเมื่อร่องดอกยางตื้นเกินไป คุณสามารถคงการทำงานของยางรถยนต์ในสภาพที่ดีที่สุดหากดูแลบำรุงรักษาตามวิธีการข้างต้น และใช้รถยนต์ของคุณได้โดยไม่มีความกังวลใด ๆ
    นอกจากนั้น ให้ใช้ยางอะไหล่ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น ห้ามนำมาใช้ระยะยาว และควรควบคุมความเร็วรถยนต์โดยไม่ควรขับเกิน 80 กม./ชม. ในสถานการณ์ปกติ

    เกณฑ์มาตรฐานแรงดันลมยางจะติดอยู่ที่เสากลางประตูหน้าด้านขวา

    การใช้ยางรถยนต์อย่างหนัก พฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่เหมาะสม และการเบรคอย่างไม่สมควร จะทำให้ดอกยางสึกทั้งหมดหรือบางส่วน ถ้ามีสารตัวทำละลายที่มีคุณสมบัติไม่เหมาะสมกระเด็นไปถูกยางรถยนต์จะทำให้เกิดการเสื่อมสภาพและยางล้อขยายตัว ความเสียหายและรอยกรีดที่ด้านข้างยางรถยนต์จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการทำงานพื้นฐานของยางรถยนต์ หากพบกรณีเหล่านี้ ขอแนะนำให้ตรวจสอบและเปลี่ยนยางที่ศูนย์บริการฟอร์ด
    โดยทั่วไปควรเช็คสภาพยางรถยนต์ก่อนการใช้รถ สลับล้อหน้าและล้อหลังอย่างถูกต้องตามคำแนะนำของศูนย์บริการฟอร์ด
    ในการบำรุงรักษาประจำวัน ควรตรวจสอบและปรับตั้งตำแหน่งล้อทั้งสี่เป็นประจำ ควรเปลี่ยนยางเมื่อร่องดอกยางตื้นเกินไป คุณสามารถคงการทำงานของยางรถยนต์ในสภาพที่ดีที่สุดหากดูแลบำรุงรักษาตามวิธีการข้างต้น และใช้รถยนต์ของคุณได้โดยไม่มีความกังวลใด ๆ
    นอกจากนั้น ให้ใช้ยางอะไหล่ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น ห้ามนำมาใช้ระยะยาว และควรควบคุมความเร็วรถยนต์โดยไม่ควรขับเกิน 80 กม./ชม. ในสถานการณ์ปกติ

    maintenance
  • การดูแลรักษาและการทำความสะอาดดุมล้อ

    การดูแลรักษาและการทำความสะอาดดุมล้อ

    ถ้าไม่ทำความสะอาดผิวหน้าดุมล้อรถยนต์เป็นเวลานาน จะทำให้มีฝุ่นและคราบมันเยิ้มปกคลุม เมื่อขับรถด้วยความเร็วสูงดุมล้อจะร้อนขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปเป็นเวลานาน บริเวณรอบ ๆ ดุมล้อจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอันเนื่องมาจากฝุ่น คราบมันเยิ้ม และอุณหภูมิที่สูง

    •  วิธีป้องกัน

    1) คุณสามารถล้างด้านหน้าดุมล้อด้วยน้ำสะอาดทุกสัปดาห์
    2) ถ้าพบฝุ่นหรือรอยเปื้อนที่มองเห็นได้ที่ด้านหน้าดุมล้อ คุณสามารถล้างดุมล้อด้วยน้ำสะอาด
    3)เจ้าของรถสามารถนำรถไปล้างอย่างสม่ำเสมอที่ร้านล้างรถที่มีความเชี่ยวชาญ

    • เจ้าของรถสามารถทำความสะอาดดุมล้อโดยใช้วิธีการต่อไปนี้:

    เตรียมน้ำสะอาด ผ้าฝ้าย และผงซักฟอก ใส่ผงซักฟอกในน้ำและผสมให้เข้ากัน เช็ดดุมล้อในส่วนที่เป็นสีเหลืองด้วยผ้าฝ้ายชุ่มน้ำ อย่าเช็ดผิวหน้าดุมล้อด้วยวัตถุแข็งเพื่อไม่ทำความเสียหายให้กับผิวหน้าดุมล้อ

    แนะนำให้ใช้เศษผ้าหยาบ ๆ เช็ดส่วนที่เป็นสีเหลือง และขอแนะนำให้ใส่ถุงมือทำงาน คุณต้องออกแรงเต็มที่แล้วเช็ดซ้ำ ๆ ในบริเวณนั้น หลังเช็ดแล้ว ให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาด

    • อื่น ๆ

    1) ทาตัวรองพื้น ทาสี และทาสีโปร่งแสงสำหรับดุมล้ออลูมิเนียมอัลลอย ซึ่งจะช่วยหลีกเลี่ยงการเป็นสนิมที่ริมดุมล้อและการสึกกร่อนอันเนื่องมาจากสารภายนอก หลังจากทำความสะอาดแล้ว สามารถฟื้นฟูดุมล้อให้สดใสเหมือนเดิม
    2)ความทนทานของสีทาดุมล้อต้องเป็นไปตามมาตรฐานของประเทศหรือมีคุณสมบัติตามมาตรฐานอุตสาหกรรม แต่วัตถุที่มีความแข็ง เช่น ก้อนหินและแผ่นเหล็กก็สามารถทำความเสียหายหรือสร้างรอยขูดขีดที่สีได้

    ถ้าไม่ทำความสะอาดผิวหน้าดุมล้อรถยนต์เป็นเวลานาน จะทำให้มีฝุ่นและคราบมันเยิ้มปกคลุม เมื่อขับรถด้วยความเร็วสูงดุมล้อจะร้อนขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปเป็นเวลานาน บริเวณรอบ ๆ ดุมล้อจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอันเนื่องมาจากฝุ่น คราบมันเยิ้ม และอุณหภูมิที่สูง

    •  วิธีป้องกัน

    1) คุณสามารถล้างด้านหน้าดุมล้อด้วยน้ำสะอาดทุกสัปดาห์
    2) ถ้าพบฝุ่นหรือรอยเปื้อนที่มองเห็นได้ที่ด้านหน้าดุมล้อ คุณสามารถล้างดุมล้อด้วยน้ำสะอาด
    3)เจ้าของรถสามารถนำรถไปล้างอย่างสม่ำเสมอที่ร้านล้างรถที่มีความเชี่ยวชาญ

    • เจ้าของรถสามารถทำความสะอาดดุมล้อโดยใช้วิธีการต่อไปนี้:

    เตรียมน้ำสะอาด ผ้าฝ้าย และผงซักฟอก ใส่ผงซักฟอกในน้ำและผสมให้เข้ากัน เช็ดดุมล้อในส่วนที่เป็นสีเหลืองด้วยผ้าฝ้ายชุ่มน้ำ อย่าเช็ดผิวหน้าดุมล้อด้วยวัตถุแข็งเพื่อไม่ทำความเสียหายให้กับผิวหน้าดุมล้อ

    แนะนำให้ใช้เศษผ้าหยาบ ๆ เช็ดส่วนที่เป็นสีเหลือง และขอแนะนำให้ใส่ถุงมือทำงาน คุณต้องออกแรงเต็มที่แล้วเช็ดซ้ำ ๆ ในบริเวณนั้น หลังเช็ดแล้ว ให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาด

    • อื่น ๆ

    1) ทาตัวรองพื้น ทาสี และทาสีโปร่งแสงสำหรับดุมล้ออลูมิเนียมอัลลอย ซึ่งจะช่วยหลีกเลี่ยงการเป็นสนิมที่ริมดุมล้อและการสึกกร่อนอันเนื่องมาจากสารภายนอก หลังจากทำความสะอาดแล้ว สามารถฟื้นฟูดุมล้อให้สดใสเหมือนเดิม
    2)ความทนทานของสีทาดุมล้อต้องเป็นไปตามมาตรฐานของประเทศหรือมีคุณสมบัติตามมาตรฐานอุตสาหกรรม แต่วัตถุที่มีความแข็ง เช่น ก้อนหินและแผ่นเหล็กก็สามารถทำความเสียหายหรือสร้างรอยขูดขีดที่สีได้

  • การดูแลรักษาสีรถ

    การดูแลรักษาสีรถ

    ขอแนะนำให้ดูแลสีรถเป็นประจำ คำแนะนำต่อไปนี้จะช่วยคุณรักษาสีรถให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด

    • การทำความสะอาดรถ

    ทำความสะอาดรถเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีคุณใช้รถในพื้นที่ใกล้ชายฝั่งและพื้นที่ที่มีเกลือหรือสารเคมีอยู่ในอากาศหรือบนถนน กรุณาล้างรถด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำเย็น ถ้าไม่สามารถล้างยางไม้ แมลง ขี้นก หรือรอยเปื้อนออกด้วยน้ำเปล่า กรุณาใช้น้ำสบู่เจือจางหรือน้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสมแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

    • การล้างรถอัตโนมัติ

    ขอแนะนำให้ใช้เครื่องล้างรถอัตโนมัติแบบไม่มีแปรง อาจมีน้ำบางส่วนพุ่งเข้ามาในรถในระหว่างการเดินเครื่องล้างรถอัตโนมัติที่มีแรงดันสูง ก่อนที่จะนำรถเข้าเครื่องล้างรถอัตโนมัติ ให้พับกระจกมองข้าง

    • การล้างรถด้วยมือ

    หลังใช้น้ำยาทำความสะอาดรถล้างรถแล้ว กรุณาล้างออกด้วยน้ำสะอาดอย่างเพียงพอ และเช็ดรถโดยใช้หนังนุ่ม ๆ หรือวัสดุที่มีความนุ่มอื่น ๆ ขอแนะนำให้ล้างและตรวจสอบโครงรถยนต์ (แชสซี) ทั้งคันเป็นประจำ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังฤดูฝน) ในพื้นที่ที่มีวัสดุกรัดกร่อนมาก (เช่น เกลือ) ก่อนใช้น้ำยาล้างรถหรือน้ำยาขัดรถ กรุณาอ่านวิธีการใช้และข้อมูลคำเตือนบนฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด ควรล้างหยดน้ำมันที่กระเด็นไปติดสีรถหรือขี้นกที่หยดใส่ผิวหน้าตัวถังรถยนต์ ออกหรือกำจัดออกให้เร็วที่สุด หากไม่ทำความสะอาดวัสดุติดแน่นเหล่านี้จะเกิดความเสียหายกับผิวหน้าของสีรถ

    • การเคลือบและการขัดสีรถ

    ควรทำความสะอาดและเช็ดรถให้แห้งก่อนจะเคลือบและขัดสีรถ ขอแนะนำให้เพิ่มความถี่ในการเคลือบและขัดสีรถอย่างเหมาะสมในพื้นที่ที่มีฝุ่นจากอุตสาหกรรม ฝุ่นละออง ฝนตกหนัก ไอเกลือ แมลง และขี้นกเป็นประจำ หรือจอดรถใต้ต้นไม้เป็นประจำ

    • รอยขูดขีด

    ขอแนะนำให้ป้องกันการขูดขีดสีรถและทำความเสียหายแก่ผิวหน้าสีรถโดยตรงจากวัตถุ เช่น กุญแจ นาฬิกา แหวน หัวเข็มขัด กิ่งไม้ หรือก้อนหิน

    • อื่น ๆ

    ถ้าคุณจอดรถกลางแจ้งเป็นเวลานาน ขอแนะนำให้คลุมและปกป้องตัวรถโดยใช้ผ้าคลุมรถกันฝุ่น เมื่อจอดรถกลางแจ้งเป็นเวลานาน ฝุ่นอาจมาเคลือบอยู่บนตัวรถ จึงแนะนำให้ทำความสะอาดรถด้วยน้ำ จากนั้นเช็ดอย่าง
    แผ่วเบาด้วยเศษผ้าสะอาดเพื่อป้องกันทรายและฝุ่นบนผิวสีรถหรือวัสดุทำความสะอาดขัดถูกับผิวสีรถ และก่อให้เกิดคราบหรือรอยเช็ดเล็ก ๆ บนผิวสีรถจากการล้างตัวรถ

    ขอแนะนำให้ดูแลสีรถเป็นประจำ คำแนะนำต่อไปนี้จะช่วยคุณรักษาสีรถให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด

    • การทำความสะอาดรถ

    ทำความสะอาดรถเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีคุณใช้รถในพื้นที่ใกล้ชายฝั่งและพื้นที่ที่มีเกลือหรือสารเคมีอยู่ในอากาศหรือบนถนน กรุณาล้างรถด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำเย็น ถ้าไม่สามารถล้างยางไม้ แมลง ขี้นก หรือรอยเปื้อนออกด้วยน้ำเปล่า กรุณาใช้น้ำสบู่เจือจางหรือน้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสมแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

    • การล้างรถอัตโนมัติ

    ขอแนะนำให้ใช้เครื่องล้างรถอัตโนมัติแบบไม่มีแปรง อาจมีน้ำบางส่วนพุ่งเข้ามาในรถในระหว่างการเดินเครื่องล้างรถอัตโนมัติที่มีแรงดันสูง ก่อนที่จะนำรถเข้าเครื่องล้างรถอัตโนมัติ ให้พับกระจกมองข้าง

    • การล้างรถด้วยมือ

    หลังใช้น้ำยาทำความสะอาดรถล้างรถแล้ว กรุณาล้างออกด้วยน้ำสะอาดอย่างเพียงพอ และเช็ดรถโดยใช้หนังนุ่ม ๆ หรือวัสดุที่มีความนุ่มอื่น ๆ ขอแนะนำให้ล้างและตรวจสอบโครงรถยนต์ (แชสซี) ทั้งคันเป็นประจำ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังฤดูฝน) ในพื้นที่ที่มีวัสดุกรัดกร่อนมาก (เช่น เกลือ) ก่อนใช้น้ำยาล้างรถหรือน้ำยาขัดรถ กรุณาอ่านวิธีการใช้และข้อมูลคำเตือนบนฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด ควรล้างหยดน้ำมันที่กระเด็นไปติดสีรถหรือขี้นกที่หยดใส่ผิวหน้าตัวถังรถยนต์ ออกหรือกำจัดออกให้เร็วที่สุด หากไม่ทำความสะอาดวัสดุติดแน่นเหล่านี้จะเกิดความเสียหายกับผิวหน้าของสีรถ

    • การเคลือบและการขัดสีรถ

    ควรทำความสะอาดและเช็ดรถให้แห้งก่อนจะเคลือบและขัดสีรถ ขอแนะนำให้เพิ่มความถี่ในการเคลือบและขัดสีรถอย่างเหมาะสมในพื้นที่ที่มีฝุ่นจากอุตสาหกรรม ฝุ่นละออง ฝนตกหนัก ไอเกลือ แมลง และขี้นกเป็นประจำ หรือจอดรถใต้ต้นไม้เป็นประจำ

    • รอยขูดขีด

    ขอแนะนำให้ป้องกันการขูดขีดสีรถและทำความเสียหายแก่ผิวหน้าสีรถโดยตรงจากวัตถุ เช่น กุญแจ นาฬิกา แหวน หัวเข็มขัด กิ่งไม้ หรือก้อนหิน

    • อื่น ๆ

    ถ้าคุณจอดรถกลางแจ้งเป็นเวลานาน ขอแนะนำให้คลุมและปกป้องตัวรถโดยใช้ผ้าคลุมรถกันฝุ่น เมื่อจอดรถกลางแจ้งเป็นเวลานาน ฝุ่นอาจมาเคลือบอยู่บนตัวรถ จึงแนะนำให้ทำความสะอาดรถด้วยน้ำ จากนั้นเช็ดอย่าง
    แผ่วเบาด้วยเศษผ้าสะอาดเพื่อป้องกันทรายและฝุ่นบนผิวสีรถหรือวัสดุทำความสะอาดขัดถูกับผิวสีรถ และก่อให้เกิดคราบหรือรอยเช็ดเล็ก ๆ บนผิวสีรถจากการล้างตัวรถ

  • ข้อควรระวังในการดูแลภายในรถยนต์
    ข้อควรระวังในการดูแลภายในรถยนต์

    1) การดูแลภายในรถยนต์ควรดูแลให้ทันเวลา สม่ำเสมอ และระยะยาว
    ทันเวลา - เมื่อภายในรถยนต์สกปรก ควรขจัดสิ่งสกปรกและทำความสะอาดอย่างทันท่วงที
    สม่ำเสมอ - อย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง
    ระยะยาว - การบำรุงรักษาระยะยาวสามารถดูแลภายในรถยนต์ให้อยู่ในสภาพดี สามารถรักษาและอาจเพิ่มมูลค่าของรถในกรณีที่ขายต่อหรือปล่อยเช่า
    2) อุปกรณ์ภายในรถยนต์ผลิตขึ้นจากวัสดุที่แตกต่างกัน ดังนั้นควรเลือกวิธีบำรุงรักษาที่ถูกต้องสำหรับวัสดุนั้นๆ
    3) บางบริเวณจะเปื้อนง่ายจึงควรให้ความใส่ใจ เช่น พวงมาลัย เข็มขัดนิรภัย คอนโซลกลาง และแผงประตูด้านคนขับ
    4) เมื่อทำความสะอาดพื้นที่ภายในรถยนต์แล้ว ควรเปิดประตูและช่องรับแสงเพื่อระบายอากาศ
    5) น้ำยาทำความสะอาดบางชนิดในท้องตลาดอาจทำอันตรายต่ออุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ หรือสภาพแวดล้อมรอบข้าง (การสัมผัสหรือการสูดดมสารพิษ ความสามารถในการติดไฟ และภาวะกรดหรือด่างเข้มข้น) ก่อนใช้น้ำยาเหล่านี้ควรอ่านและปฏิบัติตามคำแนะนำการใช้งาน ไม่แนะนำให้ใช้สารเคมีต่อไปนี้: เมื่อใช้น้ำยาทำความสะอาดและน้ำยาขัดรถ ควรได้รับการยืนยันว่าไม่มีตัวทำละลายอินทรีย์ หรือสารที่มีความเป็นกรดเข้มข้น หรือ
    ของเหลวที่มีความเป็นด่าง เช่น เมทธิลเบนซีน น้ำมันเบนซิน น้ำมันเชื้อเพลิง เอทานอล และเมทานอล
    6) อย่าทำความสะอาดสิ่งสกปรกบนผิวภายในรถยนต์ด้วยใบมีด แปรงแข็ง หรือวัตถุแหลมคมอื่น ๆ

    สิ่งทอ (เพดาน เบาะนั่ง และส่วนหุ้มตกแต่งแผงประตู)
    1) กำจัดฝุ่นและละอองสารปนเปื้อนโดยใช้แปรงขนอ่อนและเครื่องดูดฝุ่น
    2) สำหรับรอยคราบที่แข็งหรือมีขนาดใหญ่ ให้เช็ดอย่างแผ่วเบาด้วยเศษผ้าเพื่อซับรอยเปื้อนให้ได้มากที่สุดก่อน จุ่มเศษผ้าลงในน้ำบริสุทธิ์ (pure water) หรือน้ำโซดา บิดให้แห้งแล้วเช็ดออกให้หมด (หมายเหตุ: ควรบิดผ้าให้แห้ง)
    3) เช็ดรอยเปื้อนจากด้านริมเข้าสู่บริเวณตรงกลาง
    4) หากมีบางรอยเปื้อนที่ติดแน่นไม่สามารถเช็ดออกได้หมด ให้ใช้น้ำสบู่เจือจางเช็ดซ้ำ ๆ ตามขั้นตอนด้านบน (ความเข้มข้นของน้ำสบู่ที่ใช้จุ่มผ้าไม่ควรสูงเกินไปแต่สามารถเพิ่มความเข้มข้นได้ทีละน้อย)
    5) ทำความสะอาดด้วยน้ำบริสุทธิ์เพื่อกำจัดน้ำสบู่ที่เหลืออยู่ และใช้เครื่องดูดฝุ่นหรือเศษผ้าแห้งเช็ดน้ำที่เหลืออยู่ และเช็ดอุปกรณ์ตกแต่งให้แห้ง
    6) เข็มขัดนิรภัย - สามารถทำความสะอาดและดูแลรักษาเข็มขัดนิรภัยด้วยน้ำสบู่และน้ำสะอาดเท่านั้น ควรดูแลให้อยู่ในความสะอาดและแห้ง (การฟอกขาวและการย้อมสีจะทำความเสียหายกับความแข็งแรงของเข็มขัดนิรภัย และอุณหภูมิที่ทำให้แห้งไม่ควรเกิน 80℃)

    พรม (พรมรถยนต์)
    1) พรมรถยนต์ได้ถูกยึดเข้ากับตัวรถ ดังนั้นการทำความสะอาดพรมรถยนต์จึงไม่สะดวก ขอแนะนำให้ใช้แผ่นปูพื้นรถยนต์ที่สามารถยกออกได้
    2) ถ้าแผ่นปูพื้นรถยนต์สกปรกไม่มาก แนะนำให้นำออกไปเคาะนอกรถ ถ้าไม่สามารถกำจัดสิ่งสกปรกออกจากแผ่นปูพื้นรถยนต์ได้ง่าย ให้อ้างอิงวิธีดูแลและการทำความสะอาดตามมาตรฐานของวัสดุนั้น
    3) ถ้าพรมเปื้อนง่าย ให้กำจัดฝุ่นด้วยแปรงและเครื่องดูดฝุ่นก่อนการซักล้าง
    4) หลังจากกำจัดฝุ่นออกแล้ว ให้พ่นน้ำยาทำความสะอาดอย่างถูกต้อง (น้ำสบู่เจือจางและน้ำโซดา) ทำความสะอาดด้วยแปรง และสุดท้ายซับน้ำยาทำความสะอาดที่เหลืออยู่ด้วยเศษผ้าสะอาด
    5) ต้องระวังเป็นพิเศษว่าไม่ควรแช่พรมรถยนต์และแปรงเพื่อทำความสะอาด มิเช่นนั้น วัสดุต่าง ๆ ที่ผนึกเข้าด้วยกันหลายชั้นจะถูกทำลาย และพรมรถยนต์จะไม่แห้งเป็นเวลานานซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผลการใช้งาน

    หนัง (เบาะนั่งหนัง เป็นต้น)
    1) กำจัดฝุ่นด้วยเศษผ้านุ่ม ๆ จุ่มน้ำ
    2) ถ้ามีรอยเปื้อนหลงเหลืออยู่ ให้เช็ดด้วยเศษผ้านุ่ม ๆ จุ่มน้ำสบู่เจือจาง
    3) หลังจากกำจัดรอยเปื้อนออกแล้ว ปล่อยให้หนังแห้งเองตามธรรมชาติ
    4) น้ำยาทำความสะอาดและแปรงขัดหนังที่มีขายสำหรับการดูแลรักษาหนังอาจทำให้ความมันวาวของหนังไม่สม่ำเสมอ หรือกระทบต่อหนังที่ได้รับการสัมผัสเป็นการเฉพาะ ดังนั้นจึงควรใช้ด้วยความระมัดระวัง

    1) การดูแลภายในรถยนต์ควรดูแลให้ทันเวลา สม่ำเสมอ และระยะยาว
    ทันเวลา - เมื่อภายในรถยนต์สกปรก ควรขจัดสิ่งสกปรกและทำความสะอาดอย่างทันท่วงที
    สม่ำเสมอ - อย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง
    ระยะยาว - การบำรุงรักษาระยะยาวสามารถดูแลภายในรถยนต์ให้อยู่ในสภาพดี สามารถรักษาและอาจเพิ่มมูลค่าของรถในกรณีที่ขายต่อหรือปล่อยเช่า
    2) อุปกรณ์ภายในรถยนต์ผลิตขึ้นจากวัสดุที่แตกต่างกัน ดังนั้นควรเลือกวิธีบำรุงรักษาที่ถูกต้องสำหรับวัสดุนั้นๆ
    3) บางบริเวณจะเปื้อนง่ายจึงควรให้ความใส่ใจ เช่น พวงมาลัย เข็มขัดนิรภัย คอนโซลกลาง และแผงประตูด้านคนขับ
    4) เมื่อทำความสะอาดพื้นที่ภายในรถยนต์แล้ว ควรเปิดประตูและช่องรับแสงเพื่อระบายอากาศ
    5) น้ำยาทำความสะอาดบางชนิดในท้องตลาดอาจทำอันตรายต่ออุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ หรือสภาพแวดล้อมรอบข้าง (การสัมผัสหรือการสูดดมสารพิษ ความสามารถในการติดไฟ และภาวะกรดหรือด่างเข้มข้น) ก่อนใช้น้ำยาเหล่านี้ควรอ่านและปฏิบัติตามคำแนะนำการใช้งาน ไม่แนะนำให้ใช้สารเคมีต่อไปนี้: เมื่อใช้น้ำยาทำความสะอาดและน้ำยาขัดรถ ควรได้รับการยืนยันว่าไม่มีตัวทำละลายอินทรีย์ หรือสารที่มีความเป็นกรดเข้มข้น หรือ
    ของเหลวที่มีความเป็นด่าง เช่น เมทธิลเบนซีน น้ำมันเบนซิน น้ำมันเชื้อเพลิง เอทานอล และเมทานอล
    6) อย่าทำความสะอาดสิ่งสกปรกบนผิวภายในรถยนต์ด้วยใบมีด แปรงแข็ง หรือวัตถุแหลมคมอื่น ๆ

    สิ่งทอ (เพดาน เบาะนั่ง และส่วนหุ้มตกแต่งแผงประตู)
    1) กำจัดฝุ่นและละอองสารปนเปื้อนโดยใช้แปรงขนอ่อนและเครื่องดูดฝุ่น
    2) สำหรับรอยคราบที่แข็งหรือมีขนาดใหญ่ ให้เช็ดอย่างแผ่วเบาด้วยเศษผ้าเพื่อซับรอยเปื้อนให้ได้มากที่สุดก่อน จุ่มเศษผ้าลงในน้ำบริสุทธิ์ (pure water) หรือน้ำโซดา บิดให้แห้งแล้วเช็ดออกให้หมด (หมายเหตุ: ควรบิดผ้าให้แห้ง)
    3) เช็ดรอยเปื้อนจากด้านริมเข้าสู่บริเวณตรงกลาง
    4) หากมีบางรอยเปื้อนที่ติดแน่นไม่สามารถเช็ดออกได้หมด ให้ใช้น้ำสบู่เจือจางเช็ดซ้ำ ๆ ตามขั้นตอนด้านบน (ความเข้มข้นของน้ำสบู่ที่ใช้จุ่มผ้าไม่ควรสูงเกินไปแต่สามารถเพิ่มความเข้มข้นได้ทีละน้อย)
    5) ทำความสะอาดด้วยน้ำบริสุทธิ์เพื่อกำจัดน้ำสบู่ที่เหลืออยู่ และใช้เครื่องดูดฝุ่นหรือเศษผ้าแห้งเช็ดน้ำที่เหลืออยู่ และเช็ดอุปกรณ์ตกแต่งให้แห้ง
    6) เข็มขัดนิรภัย - สามารถทำความสะอาดและดูแลรักษาเข็มขัดนิรภัยด้วยน้ำสบู่และน้ำสะอาดเท่านั้น ควรดูแลให้อยู่ในความสะอาดและแห้ง (การฟอกขาวและการย้อมสีจะทำความเสียหายกับความแข็งแรงของเข็มขัดนิรภัย และอุณหภูมิที่ทำให้แห้งไม่ควรเกิน 80℃)

    พรม (พรมรถยนต์)
    1) พรมรถยนต์ได้ถูกยึดเข้ากับตัวรถ ดังนั้นการทำความสะอาดพรมรถยนต์จึงไม่สะดวก ขอแนะนำให้ใช้แผ่นปูพื้นรถยนต์ที่สามารถยกออกได้
    2) ถ้าแผ่นปูพื้นรถยนต์สกปรกไม่มาก แนะนำให้นำออกไปเคาะนอกรถ ถ้าไม่สามารถกำจัดสิ่งสกปรกออกจากแผ่นปูพื้นรถยนต์ได้ง่าย ให้อ้างอิงวิธีดูแลและการทำความสะอาดตามมาตรฐานของวัสดุนั้น
    3) ถ้าพรมเปื้อนง่าย ให้กำจัดฝุ่นด้วยแปรงและเครื่องดูดฝุ่นก่อนการซักล้าง
    4) หลังจากกำจัดฝุ่นออกแล้ว ให้พ่นน้ำยาทำความสะอาดอย่างถูกต้อง (น้ำสบู่เจือจางและน้ำโซดา) ทำความสะอาดด้วยแปรง และสุดท้ายซับน้ำยาทำความสะอาดที่เหลืออยู่ด้วยเศษผ้าสะอาด
    5) ต้องระวังเป็นพิเศษว่าไม่ควรแช่พรมรถยนต์และแปรงเพื่อทำความสะอาด มิเช่นนั้น วัสดุต่าง ๆ ที่ผนึกเข้าด้วยกันหลายชั้นจะถูกทำลาย และพรมรถยนต์จะไม่แห้งเป็นเวลานานซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผลการใช้งาน

    หนัง (เบาะนั่งหนัง เป็นต้น)
    1) กำจัดฝุ่นด้วยเศษผ้านุ่ม ๆ จุ่มน้ำ
    2) ถ้ามีรอยเปื้อนหลงเหลืออยู่ ให้เช็ดด้วยเศษผ้านุ่ม ๆ จุ่มน้ำสบู่เจือจาง
    3) หลังจากกำจัดรอยเปื้อนออกแล้ว ปล่อยให้หนังแห้งเองตามธรรมชาติ
    4) น้ำยาทำความสะอาดและแปรงขัดหนังที่มีขายสำหรับการดูแลรักษาหนังอาจทำให้ความมันวาวของหนังไม่สม่ำเสมอ หรือกระทบต่อหนังที่ได้รับการสัมผัสเป็นการเฉพาะ ดังนั้นจึงควรใช้ด้วยความระมัดระวัง

    พลาสติก (แผงหน้าปัด คอนโซลกลาง ภายในรถยนต์ เป็นต้น)

    1) กำจัดฝุ่นด้วยเศษผ้านุ่ม ๆ จุ่มน้ำ
    2) ถ้ามีรอยเปื้อนหลงเหลืออยู่ ให้เช็ดด้วยเศษผ้านุ่ม ๆ จุ่มน้ำสบู่เจือจางหรือน้ำโซดา
    3) พลาสติกถูกใช้มากในแผงหน้าปัด คอนโซลกลาง และภายในรถยนต์ แผงหน้าปัดและคอนโซลกลางมีชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ วงจรไฟฟ้า และตัวเชื่อมต่อสายไฟจำนวนมาก วิธีดูแลต้องไม่ให้มีการรั่วซึมจนเกิดไฟฟ้าลัดวงจรในการบำรุงรักษา
    4) หลายส่วนของแผงหน้าปัดจะไม่สม่ำเสมอทำให้เข้าถึงยากด้วยเศษผ้า ฟองน้ำ หรือแปรงขนอ่อน ตัดปลายเศษไม้ที่มีความหนาแตกต่างกันเป็นสามเหลี่ยมมุมเฉียงและห่อด้วย
    เศษผ้าสะอาดเพื่อใช้ทำความสะอาดแผงหน้าปัด
    5) โดยทั่วไป มีน้ำยาทำความสะอาดและน้ำยาบำรุงรักษาพลาสติกจำนวนมากวางขาย โดยน้ำยาดังกล่าวสามารถเพิ่มความมันวาวของแผงหน้าปัด ความมันวาวที่เพิ่มขึ้นจะทำให้เกิดการสะท้อนของกระจกหน้ารถ ดังนั้นจึงควรใช้ด้วยความระมัดระวัง

    กลิ่นแปลกปลอม

    1) โดยทั่วไป จะใช้การฆ่าเชื้อและการดับกลิ่นในขั้นตอนสุดท้ายของการบำรุงรักษารถยนต์ น้ำหอมหรือผลิตภัณฑ์ปรับอากาศสามารถระงับและปกป้องกลิ่นแปลกปลอมได้เพียง
    ชั่วคราวเท่านั้น และไม่สามารถกำจัดออกได้หมด
    2) ในเวลาที่ไม่ใช้รถ สามารถนำถ่านกัมมันต์ (Active carbon) วางไว้ในรถเสมือนเป็นเครื่องประดับ หรือเตรียมถังน้ำสะอาดใบเล็ก ๆ ที่หยดน้ำส้มสายชูเล็กน้อยลงในน้ำ ทำซ้ำ ๆ หลายวัน กลิ่นแปลกปลอมจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดจนหมดไป ให้ผสมน้ำกับน้ำส้มสายชูในอัตราส่วน 20:1 (สามารถเพิ่มอัตราส่วนตามความเหมาะสม) เพื่อเช็ดกระจกหน้าต่างและแผงภายในช่องเก็บของ

    พลาสติก (แผงหน้าปัด คอนโซลกลาง ภายในรถยนต์ เป็นต้น)

    1) กำจัดฝุ่นด้วยเศษผ้านุ่ม ๆ จุ่มน้ำ
    2) ถ้ามีรอยเปื้อนหลงเหลืออยู่ ให้เช็ดด้วยเศษผ้านุ่ม ๆ จุ่มน้ำสบู่เจือจางหรือน้ำโซดา
    3) พลาสติกถูกใช้มากในแผงหน้าปัด คอนโซลกลาง และภายในรถยนต์ แผงหน้าปัดและคอนโซลกลางมีชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ วงจรไฟฟ้า และตัวเชื่อมต่อสายไฟจำนวนมาก วิธีดูแลต้องไม่ให้มีการรั่วซึมจนเกิดไฟฟ้าลัดวงจรในการบำรุงรักษา
    4) หลายส่วนของแผงหน้าปัดจะไม่สม่ำเสมอทำให้เข้าถึงยากด้วยเศษผ้า ฟองน้ำ หรือแปรงขนอ่อน ตัดปลายเศษไม้ที่มีความหนาแตกต่างกันเป็นสามเหลี่ยมมุมเฉียงและห่อด้วย
    เศษผ้าสะอาดเพื่อใช้ทำความสะอาดแผงหน้าปัด
    5) โดยทั่วไป มีน้ำยาทำความสะอาดและน้ำยาบำรุงรักษาพลาสติกจำนวนมากวางขาย โดยน้ำยาดังกล่าวสามารถเพิ่มความมันวาวของแผงหน้าปัด ความมันวาวที่เพิ่มขึ้นจะทำให้เกิดการสะท้อนของกระจกหน้ารถ ดังนั้นจึงควรใช้ด้วยความระมัดระวัง

    กลิ่นแปลกปลอม

    1) โดยทั่วไป จะใช้การฆ่าเชื้อและการดับกลิ่นในขั้นตอนสุดท้ายของการบำรุงรักษารถยนต์ น้ำหอมหรือผลิตภัณฑ์ปรับอากาศสามารถระงับและปกป้องกลิ่นแปลกปลอมได้เพียง
    ชั่วคราวเท่านั้น และไม่สามารถกำจัดออกได้หมด
    2) ในเวลาที่ไม่ใช้รถ สามารถนำถ่านกัมมันต์ (Active carbon) วางไว้ในรถเสมือนเป็นเครื่องประดับ หรือเตรียมถังน้ำสะอาดใบเล็ก ๆ ที่หยดน้ำส้มสายชูเล็กน้อยลงในน้ำ ทำซ้ำ ๆ หลายวัน กลิ่นแปลกปลอมจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดจนหมดไป ให้ผสมน้ำกับน้ำส้มสายชูในอัตราส่วน 20:1 (สามารถเพิ่มอัตราส่วนตามความเหมาะสม) เพื่อเช็ดกระจกหน้าต่างและแผงภายในช่องเก็บของ

  • การดูแลรักษาตัวล็อคเข็มขัดนิรภัย

    การดูแลรักษาตัวล็อคเข็มขัดนิรภัย

    a shell of melon seed

    ในขณะใช้รถ ต้องระวังป้องกันไม่ให้วัสดุหรือเครื่องดื่มเข้าสู่ตัวล็อคเข็มขัดนิรภัย มิเช่นนั้น สิ่งดังกล่าวอาจไปขวางตัวล็อคเข็มข้ดนิรภัย หรือทำให้วงจรไฟฟ้ามีสภาพผิดปกติ ดังแสดงในภาพ 

    เพราะสิ่งแปลกปลอม (เปลือกเมล็ดแตงโม) ที่ร่วงใส่ตัวล็อคเข็มขัดนิรภัยอันเนื่องมาจากความไม่ใส่ใจทำให้ตัวล็อคเข็มขัดนิรภัยค้างหรือไม่สามารถล็อคได้

    ในขณะใช้รถ ต้องระวังป้องกันไม่ให้วัสดุหรือเครื่องดื่มเข้าสู่ตัวล็อคเข็มขัดนิรภัย มิเช่นนั้น สิ่งดังกล่าวอาจไปขวางตัวล็อคเข็มข้ดนิรภัย หรือทำให้วงจรไฟฟ้ามีสภาพผิดปกติ ดังแสดงในภาพ 

    เพราะสิ่งแปลกปลอม (เปลือกเมล็ดแตงโม) ที่ร่วงใส่ตัวล็อคเข็มขัดนิรภัยอันเนื่องมาจากความไม่ใส่ใจทำให้ตัวล็อคเข็มขัดนิรภัยค้างหรือไม่สามารถล็อคได้

  • ผลกระทบจากการไม่ใช้ชิ้นส่วนแท้: ไฟส่องสว่างภายใน

    ผลกระทบจากการไม่ใช้ชิ้นส่วนแท้: ไฟส่องสว่างภายใน

    impact of non-origin

    โครงสร้างและวิธีการประกอบไฟส่องสว่างที่ติดตั้งภายในรถยนต์ได้รับการออกแบบและตรวจสอบอย่างเคร่งครัด การประกอบใหม่และการถอดชิ้นส่วนไฟส่องสว่างภายในโดยไม่ได้รับอนุญาตจะทำให้มีสภาพไม่ปกติและกระทบอายุการใช้งานดังแสดงในภาพ

    การประกอบไฟส่องสว่าง (LED) ใหม่โดยไม่ได้รับอนุญาตจะทำให้มีสภาพการใช้งานผิดปกติ

    โครงสร้างและวิธีการประกอบไฟส่องสว่างที่ติดตั้งภายในรถยนต์ได้รับการออกแบบและตรวจสอบอย่างเคร่งครัด การประกอบใหม่และการถอดชิ้นส่วนไฟส่องสว่างภายในโดยไม่ได้รับอนุญาตจะทำให้มีสภาพไม่ปกติและกระทบอายุการใช้งานดังแสดงในภาพ

    การประกอบไฟส่องสว่าง (LED) ใหม่โดยไม่ได้รับอนุญาตจะทำให้มีสภาพการใช้งานผิดปกติ

  • การบำรุงรักษาระบบเบรคของรถยนต์

    การบำรุงรักษาระบบเบรคของรถยนต์

    จานเบรคทำมาจากเหล็กหล่อ หากรถของคุณไปลุยน้ำมาหรือออกไปสัมผัสสภาพแวดล้อมเปิดเป็นเวลานาน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพฝนตกหนัก) น้ำที่หลงเหลือหรือเม็ดฝนที่กระเด็นเข้าจานเบรคของคุณอาจทำให้เกิดสนิมเล็กน้อยที่ด้านนอกจานเบรค เราขอแนะนำคุณว่า:

    1) หลังจากซื้อรถยนต์คันใหม่ ถ้าจานเบรคเป็นสนิมเล็กน้อย ขอแนะนำให้กำจัดสนิมออกด้วยการขับและเหยียบเบรค ถ้าติดตั้งแผ่นปูพื้น ที่ตำแหน่งผู้ขับขี่ ต้องระวังการเว้นพื้นที่เคลื่อนไหวอย่างเพียงพอ เพื่อหลีกเลี่ยงการกวนกันระหว่างคันเหยียบและแผ่นปูพื้น หรือมีพื้นที่ไม่เพียงพอ
    2) เสียงเบรคที่ดังขึ้นเป็นครั้งคราวเป็นเรื่องปกติโดยทั่วไป และไม่จำเป็นต้องกังวล ระบบอาจส่งเสียงแหลมหรือเสียงดังเอี๊ยดเป็นครั้งคราวหรือเป็นช่วง ๆ ในการเบรคระหว่างการทำงานปกติ โดยทั่วไปเสียงเหล่านี้มีสาเหตุมาจากสภาวะแวดล้อม เช่น ความหนาวเย็น ความร้อน ความชื้น ฝุ่นจากถนน ดินเค็มด่าง หรือถนนขี้โคลน หลังจากรถไปลุยน้ำหรือขับขี่ในทุ่งหญ้า กรุณาล้างรถ และกำจัดคราบน้ำที่หลงเหลืออยู่โดยใช้ผ้าหรือด้วยการขับขี่
    3) หากคุณไม่ได้ใช้รถเป็นเวลานาน ให้พยายามจอดรถยนต์ของคุณในที่ร่ม หรือคลุมด้วยผ้าคลุมรถเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดสนิมที่จานเบรค
    4) เป็นเรื่องปกติที่จะเกิดสนิมหรือเป็นร่องเล็กน้อยที่จานเบรคหลังฝนตกหนักหรือจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน
    5) กรุณาดูแลระบบเบรคเป็นประจำตามคำแนะนำในคู่มือสำหรับเจ้าของรถ (Owner Manual)

    จานเบรคทำมาจากเหล็กหล่อ หากรถของคุณไปลุยน้ำมาหรือออกไปสัมผัสสภาพแวดล้อมเปิดเป็นเวลานาน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพฝนตกหนัก) น้ำที่หลงเหลือหรือเม็ดฝนที่กระเด็นเข้าจานเบรคของคุณอาจทำให้เกิดสนิมเล็กน้อยที่ด้านนอกจานเบรค เราขอแนะนำคุณว่า:

    1) หลังจากซื้อรถยนต์คันใหม่ ถ้าจานเบรคเป็นสนิมเล็กน้อย ขอแนะนำให้กำจัดสนิมออกด้วยการขับและเหยียบเบรค ถ้าติดตั้งแผ่นปูพื้น ที่ตำแหน่งผู้ขับขี่ ต้องระวังการเว้นพื้นที่เคลื่อนไหวอย่างเพียงพอ เพื่อหลีกเลี่ยงการกวนกันระหว่างคันเหยียบและแผ่นปูพื้น หรือมีพื้นที่ไม่เพียงพอ
    2) เสียงเบรคที่ดังขึ้นเป็นครั้งคราวเป็นเรื่องปกติโดยทั่วไป และไม่จำเป็นต้องกังวล ระบบอาจส่งเสียงแหลมหรือเสียงดังเอี๊ยดเป็นครั้งคราวหรือเป็นช่วง ๆ ในการเบรคระหว่างการทำงานปกติ โดยทั่วไปเสียงเหล่านี้มีสาเหตุมาจากสภาวะแวดล้อม เช่น ความหนาวเย็น ความร้อน ความชื้น ฝุ่นจากถนน ดินเค็มด่าง หรือถนนขี้โคลน หลังจากรถไปลุยน้ำหรือขับขี่ในทุ่งหญ้า กรุณาล้างรถ และกำจัดคราบน้ำที่หลงเหลืออยู่โดยใช้ผ้าหรือด้วยการขับขี่
    3) หากคุณไม่ได้ใช้รถเป็นเวลานาน ให้พยายามจอดรถยนต์ของคุณในที่ร่ม หรือคลุมด้วยผ้าคลุมรถเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดสนิมที่จานเบรค
    4) เป็นเรื่องปกติที่จะเกิดสนิมหรือเป็นร่องเล็กน้อยที่จานเบรคหลังฝนตกหนักหรือจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน
    5) กรุณาดูแลระบบเบรคเป็นประจำตามคำแนะนำในคู่มือสำหรับเจ้าของรถ (Owner Manual)

Call us

ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์

Ford Call Center โทร. 1383 หรือ 1-800-225-449 (ต่างจังหวัดโทรฟรี)

Email: fordthai@ford.com

ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์

Ford Call Center โทร. 1383 หรือ 1-800-225-449 (ต่างจังหวัดโทรฟรี)

Email: fordthai@ford.com

Top