พบกับรถฟอร์ด ที่ใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 | Ford ประเทศไทย

รถฟอร์ด ที่ใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 - Ford Ranger, Ford Ranger Raptor และ Ford Everest

รถยนต์ฟอร์ด ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ ดีเซล 2.0 ลิตร ทั้งเทอร์โบเดี่ยวและเทอร์โบคู่ รองรับการใช้น้ำมันไบโอดีเซล

การใช้ไบโอดีเซล

รถของคุณเหมาะสำหรับการใช้งานไบโอดีเซลที่ผสมไม่เกิน 20% (B20) คุณจะได้รับสมรรถนะและความทนทานของเครื่องยนต์ในแบบที่ยอมรับได้โดยใช้ B20 โดยการปฏิบัติตามแนวด้านล่างนี้
อย่าเติมเชื้อเพลิงที่มีไบโอดีเซลที่มีการผสมเกินกว่า 20% ในถังเชื้อเพลิง

หมายเหตุ:  อย่าใช้น้ำมันดิบ ไขมันหรือเศษไขมันสัตว์จากการประกอบอาหาร เนื่องจากสารเหล่านี้ไม่ใช่ไบโอดีเซล

หมายเหตุ:  หากรถของคุณประสบปัญหาน้ำมันเชื้อเพลิงกลายเป็นไขที่อุณหภูมิต่ำ โปรดพิจารณาใช้น้ำมันดีเซลยี่ห้ออื่นหรือน้ำมันดีเซลที่มีสารไบโอดีเซลในปริมาณที่ต่ำกว่าเดิม

หมายเหตุ:  เราไม่แนะนำให้ใช้สารเติมแต่งต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำมันเชื้อเพลิงกลายเป็นไข

การไม่ใช้รถยนต์เป็นเวลานาน

เชื้อเพลิงดีเซลส่วนใหญ่มีไบโอดีเซล อย่าจอดรถที่เติมน้ำมันเชื้อเพลิงไบโอดีเซลทิ้งไว้เป็นเวลานานกว่า 1 เดือน เนื่องจากน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซลที่มีสารไบโอดีเซลอาจจะมีประสิทธิภาพลดลงอย่างรวดเร็ว เมื่อถูกเก็บไว้เป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่ออยู่ในสภาวะที่อุ่นและชื้น เราขอแนะนำให้คุณขอคำแนะนำจากผู้จำหน่ายที่ได้รับอนุญาต

การขับรถในช่วงฤดูหนาว

สามารถปรับแต่งน้ำมันดีเซลตามฤดูกาลสำหรับอุณหภูมิที่หนาวเย็น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีสุดในอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 2°C ขอแนะนำให้ใช้น้ำมันดีเซลที่มีการปรับแต่งตามฤดูกาลสำหรับสภาวะของท้องถิ่น

รถยนต์ฟอร์ด ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ ดีเซล 2.0 ลิตร ทั้งเทอร์โบเดี่ยวและเทอร์โบคู่ รองรับการใช้น้ำมันไบโอดีเซล

การใช้ไบโอดีเซล

รถของคุณเหมาะสำหรับการใช้งานไบโอดีเซลที่ผสมไม่เกิน 20% (B20) คุณจะได้รับสมรรถนะและความทนทานของเครื่องยนต์ในแบบที่ยอมรับได้โดยใช้ B20 โดยการปฏิบัติตามแนวด้านล่างนี้
อย่าเติมเชื้อเพลิงที่มีไบโอดีเซลที่มีการผสมเกินกว่า 20% ในถังเชื้อเพลิง

หมายเหตุ:  อย่าใช้น้ำมันดิบ ไขมันหรือเศษไขมันสัตว์จากการประกอบอาหาร เนื่องจากสารเหล่านี้ไม่ใช่ไบโอดีเซล

หมายเหตุ:  หากรถของคุณประสบปัญหาน้ำมันเชื้อเพลิงกลายเป็นไขที่อุณหภูมิต่ำ โปรดพิจารณาใช้น้ำมันดีเซลยี่ห้ออื่นหรือน้ำมันดีเซลที่มีสารไบโอดีเซลในปริมาณที่ต่ำกว่าเดิม

หมายเหตุ:  เราไม่แนะนำให้ใช้สารเติมแต่งต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำมันเชื้อเพลิงกลายเป็นไข

การไม่ใช้รถยนต์เป็นเวลานาน

เชื้อเพลิงดีเซลส่วนใหญ่มีไบโอดีเซล อย่าจอดรถที่เติมน้ำมันเชื้อเพลิงไบโอดีเซลทิ้งไว้เป็นเวลานานกว่า 1 เดือน เนื่องจากน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซลที่มีสารไบโอดีเซลอาจจะมีประสิทธิภาพลดลงอย่างรวดเร็ว เมื่อถูกเก็บไว้เป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่ออยู่ในสภาวะที่อุ่นและชื้น เราขอแนะนำให้คุณขอคำแนะนำจากผู้จำหน่ายที่ได้รับอนุญาต

การขับรถในช่วงฤดูหนาว

สามารถปรับแต่งน้ำมันดีเซลตามฤดูกาลสำหรับอุณหภูมิที่หนาวเย็น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีสุดในอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 2°C ขอแนะนำให้ใช้น้ำมันดีเซลที่มีการปรับแต่งตามฤดูกาลสำหรับสภาวะของท้องถิ่น

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ น้ำมันดีเซล B20 และน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับฟอร์ด

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ น้ำมันดีเซล B20 และน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับฟอร์ด

  • ดีเซล B20 ใช้กับรถยนต์ ฟอร์ด รุ่นอะไรได้บ้าง

    ดีเซล B20 ใช้กับรถยนต์ ฟอร์ด รุ่นอะไรได้บ้าง

    รถยนต์ฟอร์ดที่รองรับการใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 นั้นแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้คือ 

    1. รถฟอร์ดเรนเจอร์ และ เอเวอเรสต์ เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร สามารถใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 ได้ทันที โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนหรือติดตั้งอะไหล่ใดๆเพิ่มเติม แต่จะต้องปฎิบัติตามเงื่อนไขรอบการเช็คระยะที่แนะนำ
    2. รถฟอร์ดเรนเจอร์ และ เอเวอเรสต์ เครื่องยนต์ 2.2 ลิตร ที่ผลิตตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม ปี 2563 เป็นต้นไป สามารถใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 ได้ทันที โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนหรือติดตั้งอะไหล่ใดๆเพิ่มเติม แต่จะต้องปฎิบัติตามเงื่อนไขรอบการเช็คระยะที่แนะนำ ซึ่งจะมีสติ๊กเกอร์ B20 ติดอยู่บริเวณด้านในฝาถังน้ำมันของตัวรถ 
    3. รถฟอร์ดเรนเจอร์ และ เอเวอเรสต์ เครื่องยนต์ 2.2 ลิตร ที่ผลิตก่อนหน้าวันที่ 6 มกราคม ปี 2563 จะยังไม่สามารถใช้น้ำมัน B20 ได้ หากต้องการใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 จะต้องทำการติดตั้งอุปกรณ์ชุดอะไหล่กรองน้ำมันเชื้อเพลิง B20 ให้เสร็จสิ้นก่อน และจะต้องปฎิบัติตามเงื่อนไขรอบการเช็คระยะที่แนะนำ
    4. รถฟอร์ดเรนเจอร์ และ เอเวอเรสต์ เครื่องยนต์ 3.2 ลิตร ทุกคัน จะยังไม่สามารถใช้น้ำมัน B20 ได้ หากต้องการใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 จะต้องทำการติดตั้งอุปกรณ์ชุดอะไหล่กรองน้ำมันเชื้อเพลิง B20 ให้เสร็จสิ้นก่อน และจะต้องปฎิบัติตามเงื่อนไขรอบการเช็คระยะที่แนะนำ

    ตรวจสอบ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ SUV รุ่นต่างๆ
    ตรวจสอบ กระบะ ฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นต่างๆ

    รถยนต์ฟอร์ดที่รองรับการใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 นั้นแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้คือ 

    1. รถฟอร์ดเรนเจอร์ และ เอเวอเรสต์ เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร สามารถใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 ได้ทันที โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนหรือติดตั้งอะไหล่ใดๆเพิ่มเติม แต่จะต้องปฎิบัติตามเงื่อนไขรอบการเช็คระยะที่แนะนำ
    2. รถฟอร์ดเรนเจอร์ และ เอเวอเรสต์ เครื่องยนต์ 2.2 ลิตร ที่ผลิตตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม ปี 2563 เป็นต้นไป สามารถใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 ได้ทันที โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนหรือติดตั้งอะไหล่ใดๆเพิ่มเติม แต่จะต้องปฎิบัติตามเงื่อนไขรอบการเช็คระยะที่แนะนำ ซึ่งจะมีสติ๊กเกอร์ B20 ติดอยู่บริเวณด้านในฝาถังน้ำมันของตัวรถ 
    3. รถฟอร์ดเรนเจอร์ และ เอเวอเรสต์ เครื่องยนต์ 2.2 ลิตร ที่ผลิตก่อนหน้าวันที่ 6 มกราคม ปี 2563 จะยังไม่สามารถใช้น้ำมัน B20 ได้ หากต้องการใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 จะต้องทำการติดตั้งอุปกรณ์ชุดอะไหล่กรองน้ำมันเชื้อเพลิง B20 ให้เสร็จสิ้นก่อน และจะต้องปฎิบัติตามเงื่อนไขรอบการเช็คระยะที่แนะนำ
    4. รถฟอร์ดเรนเจอร์ และ เอเวอเรสต์ เครื่องยนต์ 3.2 ลิตร ทุกคัน จะยังไม่สามารถใช้น้ำมัน B20 ได้ หากต้องการใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 จะต้องทำการติดตั้งอุปกรณ์ชุดอะไหล่กรองน้ำมันเชื้อเพลิง B20 ให้เสร็จสิ้นก่อน และจะต้องปฎิบัติตามเงื่อนไขรอบการเช็คระยะที่แนะนำ

    ตรวจสอบ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ SUV รุ่นต่างๆ
    ตรวจสอบ กระบะ ฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นต่างๆ

  • ดีเซล B20 ดีเซล B10 กับดีเซลต่างกันยังไง

    ดีเซล B20 ดีเซล B10 กับดีเซลต่างกันยังไง

    น้ำมันประเภท B คือ พลังงานทดแทนที่มาจากการนำน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไปผสมกับไบโอดีเซลซึ่งเป็นเชื้อเพลิงดีเซลทางเลือกที่ผลิตจากน้ำมันพืช หรือ ไขมันสัตว์ โดยตั้งชื่อแตกต่างกันตามสัดส่วนที่ผสม ดังนั้นตัวเลขที่ต่างกันของ B20 และ B10 บ่งบอกถึงอัตราส่วนในการผสมของน้ำมันไบโอดีเซลโดย B10 มีสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลอยู่ที่ 10% และ B20 มีสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลอยู่ที่ 20%

    น้ำมันประเภท B คือ พลังงานทดแทนที่มาจากการนำน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไปผสมกับไบโอดีเซลซึ่งเป็นเชื้อเพลิงดีเซลทางเลือกที่ผลิตจากน้ำมันพืช หรือ ไขมันสัตว์ โดยตั้งชื่อแตกต่างกันตามสัดส่วนที่ผสม ดังนั้นตัวเลขที่ต่างกันของ B20 และ B10 บ่งบอกถึงอัตราส่วนในการผสมของน้ำมันไบโอดีเซลโดย B10 มีสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลอยู่ที่ 10% และ B20 มีสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลอยู่ที่ 20%

  • รถยนต์ ฟอร์ด ประหยัดน้ํามันไหม

    รถยนต์ ฟอร์ด ประหยัดน้ํามันไหม

    รถยนต์แต่ละรุ่นจะมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงแตกต่างกัน การวัดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงตามมาตราฐานสากลนั้น จะทำในห้องปฎิบัติการที่สามารถควบคุมปัจจัยแวดล้อมต่างๆได้ และผลที่ได้จะปรากฏอยุ่ใน Eco Sticker ที่ติดอยู่บนรถใหม่ ซึ่งค่าที่แสดงนั้นจะแตกต่างจากค่าที่วัดได้จากการใช้งานจริง เพราะในทางปฎิบัติแล้วอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงในการขับขี่จริงนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น สภาพรถยนต์ เทคนิกและลักษณะการขับขี่ สภาพการจราจร ลักษณะภูมิประเทศและเส้นทาง ยางและความดันลมยาง คุณสมบัติของน้ำมันเครื่องกับไส้กรองน้ำมันเครื่อง อุณหภูมิและความชื้น และน้ำหนักบรรทุก เป็นต้น ดังนั้นหากต้องการอ้างอิงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงตามมาตราฐานสากล ลูกค้าสามารถตรวจสอบได้จาก Eco Sticker
    ดูข้อมูลเกี่ยวกับ EcoBoost เป็นเครื่องยนต์ที่ชนะรางวัลยอดเยี่ยมระดับโลก ที่ลดอัตราการใช้เชื้อเพลิงได้สูงสุดถึง 20% แต่ยังคงไว้ซึ่งความแรง 

    รถยนต์แต่ละรุ่นจะมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงแตกต่างกัน การวัดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงตามมาตราฐานสากลนั้น จะทำในห้องปฎิบัติการที่สามารถควบคุมปัจจัยแวดล้อมต่างๆได้ และผลที่ได้จะปรากฏอยุ่ใน Eco Sticker ที่ติดอยู่บนรถใหม่ ซึ่งค่าที่แสดงนั้นจะแตกต่างจากค่าที่วัดได้จากการใช้งานจริง เพราะในทางปฎิบัติแล้วอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงในการขับขี่จริงนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น สภาพรถยนต์ เทคนิกและลักษณะการขับขี่ สภาพการจราจร ลักษณะภูมิประเทศและเส้นทาง ยางและความดันลมยาง คุณสมบัติของน้ำมันเครื่องกับไส้กรองน้ำมันเครื่อง อุณหภูมิและความชื้น และน้ำหนักบรรทุก เป็นต้น ดังนั้นหากต้องการอ้างอิงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงตามมาตราฐานสากล ลูกค้าสามารถตรวจสอบได้จาก Eco Sticker
    ดูข้อมูลเกี่ยวกับ EcoBoost เป็นเครื่องยนต์ที่ชนะรางวัลยอดเยี่ยมระดับโลก ที่ลดอัตราการใช้เชื้อเพลิงได้สูงสุดถึง 20% แต่ยังคงไว้ซึ่งความแรง 

  • อัตราสิ้นเปลืองน้ํามันของดีเซล B20 ดีไหม

    อัตราสิ้นเปลืองน้ํามันของดีเซล B20 ดีไหม

    ในทางปฎิบัติแล้วอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงในการขับขี่จริงนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น สภาพรถยนต์ เทคนิกและลักษณะการขับขี่ สภาพการจราจร ลักษณะภูมิประเทศและเส้นทาง ยางและความดันลมยาง คุณสมบัติของน้ำมันเครื่องกับไส้กรองน้ำมันเครื่อง อุณหภูมิและความชื้น และน้ำหนักบรรทุก เป็นต้น 
    อย่างไรก็ตาม ลูกค้าสามารถวิเคราะห์อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงในรถของท่านเองได้หลายวิธี ยกวิธีตัวอย่างเช่น การเติมน้ำมันลงในถัง และขับขี่ในเส้นทางและระยะทางที่ต้องการ จากนั้นเติมน้ำมันลงไปอีกครั้งในถังและนำค่าน้ำมันที่เติมลงไปครั้งหลังนี้หารด้วยจำนวนระยะทางกิโลเมตรที่วิ่งได้ ก็จะได้ค่าอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของรถยนต์ของท่านออกมา

    ในทางปฎิบัติแล้วอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงในการขับขี่จริงนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น สภาพรถยนต์ เทคนิกและลักษณะการขับขี่ สภาพการจราจร ลักษณะภูมิประเทศและเส้นทาง ยางและความดันลมยาง คุณสมบัติของน้ำมันเครื่องกับไส้กรองน้ำมันเครื่อง อุณหภูมิและความชื้น และน้ำหนักบรรทุก เป็นต้น 
    อย่างไรก็ตาม ลูกค้าสามารถวิเคราะห์อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงในรถของท่านเองได้หลายวิธี ยกวิธีตัวอย่างเช่น การเติมน้ำมันลงในถัง และขับขี่ในเส้นทางและระยะทางที่ต้องการ จากนั้นเติมน้ำมันลงไปอีกครั้งในถังและนำค่าน้ำมันที่เติมลงไปครั้งหลังนี้หารด้วยจำนวนระยะทางกิโลเมตรที่วิ่งได้ ก็จะได้ค่าอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของรถยนต์ของท่านออกมา

  • กรณีลูกค้าที่มีสัญญาโปรแกรมบำรุงรักษารถยนต์ตามระยะ (SSP)

    กรณีลูกค้าที่มีสัญญาโปรแกรมบำรุงรักษารถยนต์ตามระยะ (SSP)

    กรณีลูกค้าที่มีสัญญา “โปรแกรมบำรุงรักษารถยนต์ตามระยะ (SSP)” ของรถยนต์ฟอร์ด เรนเจอร์ และเอเวอเรสต์ เครื่องยนต์ 2.2 & 3.2L และได้เริ่มใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 จะต้องปฎิบัติตามเงื่อนไขรอบการเช็กระยะที่แนะนำของ บ.ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส เท่านั้นคือ จะต้องเปลี่ยนอะไหล่แท้ฟอร์ดไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงรุ่นเฉพาะสำหรับ B20 ในทุกรอบการตรวจเช็กระยะเท่านั้น โดยอ้างอิงจากรอบตามตารางตรวจเช็กระยะดั้งเดิมของรถยนต์คันนั้นๆ

    กรณีไม่ได้ใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 เจ้าของรถต้องเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง

    • ทุกระยะ 30,000 กม. หรือ 24 เดือน แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน
    • ทุกระยะ 30,000 กม. หรือ 18 เดือน แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน

    กรณีเมื่อใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 เจ้าของรถต้องเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง

    • ทุกระยะ 15,000 กม. หรือ 12 เดือน แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน
    • ทุกระยะ 15,000 กม. หรือ 9 เดือน แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน


    ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง B20 มีราคาไม่เท่ากับไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงปกติ แต่จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนในทุกรอบการเช็กระยะ เจ้าของรถจึงจำเป็นที่จะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หากมีส่วนต่างในรอบการเช็กระยะนั้นๆ โดยสามารถชำระเงินส่วนต่างนี้ให้กับทางผู้จำหน่ายในวันที่ลูกค้ามาเข้ารับบริการ

    หมายเลขอะไหล่ ชื่ออะไหล่ ราคาจำหน่ายค้าปลีก (ไม่รวม VAT)*
     EB3Z9365B ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง B20 725
     LU2Z9365A ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงปกติ 580

    *ราคาดังกล่าวเป็นราคา ณ วันที่ 24 เม.ย. 2565 บริษัทขอสงวนสิทธ์ในการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดต่างๆและราคาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

    กรณีลูกค้าที่มีสัญญา “โปรแกรมบำรุงรักษารถยนต์ตามระยะ (SSP)” ของรถยนต์ฟอร์ด เรนเจอร์ และเอเวอเรสต์ เครื่องยนต์ 2.2 & 3.2L และได้เริ่มใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 จะต้องปฎิบัติตามเงื่อนไขรอบการเช็กระยะที่แนะนำของ บ.ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส เท่านั้นคือ จะต้องเปลี่ยนอะไหล่แท้ฟอร์ดไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงรุ่นเฉพาะสำหรับ B20 ในทุกรอบการตรวจเช็กระยะเท่านั้น โดยอ้างอิงจากรอบตามตารางตรวจเช็กระยะดั้งเดิมของรถยนต์คันนั้นๆ

    กรณีไม่ได้ใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 เจ้าของรถต้องเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง

    • ทุกระยะ 30,000 กม. หรือ 24 เดือน แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน
    • ทุกระยะ 30,000 กม. หรือ 18 เดือน แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน


    กรณีเมื่อใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 เจ้าของรถต้องเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง

    • ทุกระยะ 15,000 กม. หรือ 12 เดือน แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน
    • ทุกระยะ 15,000 กม. หรือ 9 เดือน แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน


    ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง B20 มีราคาไม่เท่ากับไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงปกติ แต่จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนในทุกรอบการเช็กระยะ เจ้าของรถจึงจำเป็นที่จะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หากมีส่วนต่างในรอบการเช็กระยะนั้นๆ โดยสามารถชำระเงินส่วนต่างนี้ให้กับทางผู้จำหน่ายในวันที่ลูกค้ามาเข้ารับบริการ

    หมายเลขอะไหล่ ชื่ออะไหล่ ราคาจำหน่ายค้าปลีก (ไม่รวม VAT)*
     EB3Z9365B ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง B20 725
     LU2Z9365A ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงปกติ 580

    *ราคาดังกล่าวเป็นราคา ณ วันที่ 24 เม.ย. 2565 บริษัทขอสงวนสิทธ์ในการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดต่างๆและราคาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

Top